ทำข้อสอบวัดระดับความรู้ เรื่อง การจัดการเรียนรู้เชิงรุก เพื่อรับเกียรติบัตรออนไลน์ ผ่าน Google Form
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอนำกิจกรรมการทำข้อสอบวัดระดับความรู้ เรื่อง การจัดการเรียนรู้เชิงรุก เพื่อรับเกียรติบัตรออนไลน์ ผ่าน Google Form โดยเมื่อท่านได้ทำแบบทดสอบผ่านเกณฑ์ที่ทางผู้จัดกิจกรรมได้กำหนดไว้ ท่านจะได้รับเกียรติบัตรเป็นไฟล์ PDF ดังภาพตัวอย่างที่ได้ทางผมได้นำมาแสดงให้ดูไว้ผ่านทาง Email ที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้ตอนทำแบบทดสอบครับ สามารถทำแบบทดสอบได้ที่ปุ่มทำแบบทดสอบด้านล่างเลยครับ

สรุปความรู้เพื่อใช้ในการทำแบบทดสอบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยพี่แอดมิน
พอน้อง ๆ ได้ยินคำว่า Active Learning แล้วนึกถึงอะไรบ้าง บางคนอาจจะคิดว่าเป็นการเรียนที่ต้องขยับตัวเยอะ ๆ หรือว่าเป็นการเรียนแบบสนุก ๆ แต่จริง ๆ แล้ว Active Learning มีความหมายลึกซึ้งกว่านั้นเยอะ มันคือการปฏิวัติวิธีการเรียนการสอนที่ทำให้ ผู้เรียนมีบทบาทในการสร้างองค์ความรู้ใหม่ และค้นหาความรู้ด้วยตนเอง ซึ่งต่างจากการเรียนแบบเดิม ๆ ที่ครูเป็นคนบอกทุกอย่าง แล้วเราก็นั่งฟังอย่างเดียว
ถ้าเอาง่าย ๆ Active Learning ก็คือการที่เราไม่ได้เป็นแค่ผู้รับความรู้ แต่เราต้องเป็นนักสืบที่ออกไปค้นหาเบาะแส สร้างสรรค์คำตอบ และแก้ปัญหาด้วยตัวเอง แต่ไม่ใช่ว่าจะปล่อยให้เราไปต่อสู้กับโลกกว้างคนเดียวนะ ครูจะคอยเป็นพี่เลี้ยง คอยชี้แนะ และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้
การเรียนรู้แบบนี้มีความพิเศษตรงที่ การให้ผู้เรียนมีบทบาทในการแสวงหาความรู้และเรียนรู้อย่างมีปฏิสัมพันธ์จนเกิดความรู้ ความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ ไม่ใช่แค่จดจำข้อมูลแล้วคายออกมาตอนสอบ แต่เป็นการสร้างความเข้าใจอย่างแท้จริง จนสามารถเอาไปใช้ในชีวิตจริงได้
หลายคนอาจสงสัยว่าแล้ว Active Learning ต่างจากการทำวิจัยยังไง ต้องบอกเลยว่าต่างกันเยอะ การทำวิจัยจะเป็น กระบวนการสืบค้นเชิงลึกเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยมีนักเรียนเป็นผู้ลงมือปฏิบัติ ซึ่งมันเน้นการขุดลึกในเรื่องเดียว แต่ Active Learning จะเน้นความหลากหลายของกิจกรรม มีการปฏิสัมพันธ์แบบต่าง ๆ และมุ่งเน้นให้เกิดการเรียนรู้ในหลายมิติ
สิ่งที่น่าสนใจของ Active Learning คือมันไม่ได้เน้นแค่การทำงานคนเดียว แต่จริง ๆ แล้วแนวคิดพื้นฐานของมันมุ่งเน้นให้เกิด กระบวนการเรียนรู้ที่ผู้เรียนมีความสามารถในกิจกรรมการทำงานกลุ่ม การทำงานร่วมกันนี่แหละที่ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การโต้แย้งอย่างสร้างสรรค์ และการเรียนรู้จากมุมมองที่แตกต่างกัน
น้อง ๆ อาจจะเคยสงสัยว่าทำไมต้องเรียนแบบนี้ด้วย เรียนแบบเดิมก็ได้นะ ได้ยินแล้วจำ สอบผ่าน จบเรื่อง แต่ประโยชน์ของ Active Learning นั้นมากกว่าที่คิด มันช่วยให้ ผู้เรียนมีความเข้าใจในเนื้อหาได้ดีขึ้น และสามารถเก็บกักข้อมูลข่าวสารเหล่านั้นไว้ในความทรงจำได้นานขึ้น ไม่ใช่แค่จำไปสอบแล้วลืมหมด
มากไปกว่านั้น Active Learning ยังช่วยพัฒนาทักษะที่สำคัญมาก ๆ นั่นก็คือ การคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหา ทักษะเหล่านี้ไม่ใช่แค่จำเป็นสำหรับการเรียน แต่เป็นทักษะชีวิตที่เราจะใช้ตลอดไป ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่การตัดสินใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
การเรียนรู้แบบนี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องล้าสมัย หรือใช้เฉพาะวิธีการแบบดั้งเดิม Active Learning สามารถใช้ร่วมกับเทคโนโลยีได้ เพราะเทคโนโลยีสามารถสนับสนุนการมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นการใช้แอพพลิเคชันในการสำรวจความคิดเห็น การสร้างผลงานดิจิทัล หรือการใช้เกมการศึกษาที่ทำให้การเรียนรู้สนุกขึ้น
แต่การนำ Active Learning มาใช้ก็ไม่ได้ง่ายเสมอไป มันมีอุปสรรคหลายอย่างที่ต้องเผชิญ อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดคือ ผู้เรียนไม่กล้าคิด กล้าพูด และแสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นเรื่องปกติของสังคมไทยที่เราถูกสอนมาให้เป็นเด็กดี นั่งเงียบ ฟังครู ไม่โต้แย้ง แต่ใน Active Learning เราต้องกล้าที่จะแสดงออก กล้าที่จะผิด และกล้าที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาด
เพื่อให้ Active Learning ได้ผลดี เราต้องมีทักษะพื้นฐานที่จำเป็น ทักษะที่ส่งเสริม Active Learning ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือ การฟัง การพูด การอ่าน การเขียน การสะท้อนความคิด ทักษะเหล่านี้ทำงานร่วมกันเหมือนฟันเฟืองของเครื่องจักร ขาดอันไหนไปก็จะทำให้การเรียนรู้ไม่ราบรื่น
การฟังไม่ใช่แค่การได้ยินเสียง แต่เป็นการรับรู้และเข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูด การพูดไม่ใช่แค่การออกเสียง แต่เป็นการสื่อสารความคิดให้คนอื่นเข้าใจ การอ่านไม่ใช่แค่การมองตัวอักษร แต่เป็นการดึงความหมายออกมา และการเขียนไม่ใช่แค่การขีดเขียน แต่เป็นการจัดระเบียบความคิดให้เป็นรูปธรรม
กิจกรรมใน Active Learning มีหลากหลายแบบมาก แต่ที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูงคือ Think-pair-share ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนคิดคนเดียวก่อน แล้วจับคู่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสุดท้ายมานำเสนอให้คนทั้งกลุ่มฟัง วิธีนี้ช่วยให้ทุกคนได้มีโอกาสคิด มีโอกาสพูด และได้เรียนรู้จากมุมมองที่แตกต่างกัน
อีกกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจคือ Student-led Review Sessions ซึ่งเป็นกิจกรรมให้ผู้เรียนทบทวนความรู้ โดยครูคอยช่วยเหลือ แต่ตัวผู้เรียนเองเป็นคนนำ วิธีนี้ช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกการเป็นผู้นำ ได้ทบทวนความรู้อย่างลึกซึ้ง และได้เรียนรู้การสอนคนอื่น
สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากใน Active Learning คือการใช้คำถาม โดยเฉพาะคำถามปลายเปิด การใช้คำถามปลายเปิดมีวัตถุประสงค์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีแนวทางในการหาคำตอบที่หลากหลาย ไม่ใช่คำถามที่มีคำตอบตายตัว แต่เป็นคำถามที่กระตุ้นให้คิด วิเคราะห์ และสร้างสรรค์
ตัวอย่างเช่น แทนที่จะถามว่า “เมืองหลวงของไทยคือที่ไหน” ซึ่งมีคำตอบแค่ “กรุงเทพ” ก็จะถามว่า “ถ้าเราจะย้ายเมืองหลวงของไทยไปที่อื่น น้อง ๆ คิดว่าควรย้ายไปที่ไหน เพราะอะไร และจะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง” คำถามแบบนี้จะทำให้ผู้เรียนต้องคิดหลายมิติ วิเคราะห์สาเหตุ ผลกระทบ และสร้างเหตุผลสนับสนุน
ในระบบ Active Learning บทบาทของครูก็เปลี่ยนไปจากเดิมมาก ครูไม่ได้เป็นคนที่ยืนหน้าชั้นแล้วบรรยายตั้งแต่ต้นจนจบ แต่เป็นผู้อำนวยความสะดวก เป็นผู้ชี้แนะ และเป็นผู้สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ สิ่งที่ไม่ใช่บทบาทของครูใน Active Learning คือการ มีความสามารถในการสื่อสาร ถ่ายทอดความคิดผ่านการเขียน อภิปรายโต้แย้ง ให้เหตุผล สามารถแสดงความคิดเห็นและแสดงทัศนคติ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นบทบาทของผู้เรียนมากกว่า
ครูใน Active Learning จะทำหน้าที่เป็นโค้ช เป็นผู้สังเกต และเป็นผู้ให้คำแนะนำเมื่อจำเป็น ครูจะต้องรู้จักถอยออกมาให้ผู้เรียนได้ลองผิดลองถูก แต่ก็ต้องรู้จักเข้าไปช่วยเหลือเมื่อผู้เรียนต้องการ
การประเมินผลใน Active Learning ก็ต่างจากการประเมินแบบเดิม วิธีประเมินผลแบบที่ไม่ควรใช้ใน Active Learning คือ การประเมินโดยใช้แต่คะแนนสอบปลายภาคเท่านั้น เพราะการสอบแบบนั้นไม่สามารถวัดทักษะการคิด การแก้ปัญหา การทำงานร่วมกัน หรือการประยุกต์ใช้ความรู้ได้
แทนที่จะใช้การประเมินแบบเดิม Active Learning จะใช้การประเมินแบบหลากหลาย เช่น การประเมินจากการมีส่วนร่วมในกิจกรรม การประเมินจากผลงาน การประเมินจากการนำเสนอ การประเมินจากเพื่อน และการประเมินตนเอง วิธีการเหล่านี้จะให้ภาพรวมของความสามารถของผู้เรียนได้ครบถ้วนกว่า
อย่างไรก็ตาม มีบางสิ่งที่ไม่เข้ากับแนวคิดของ Active Learning ตัวอย่างเช่น กิจกรรมที่ผู้เรียนแข่งขันกับเพื่อนในชั้นเรียน แม้ว่าการแข่งขันจะทำให้มีความตื่นเต้น แต่มันอาจจะสร้างความขัดแย้ง ทำให้บางคนรู้สึกท้อแท้ และไม่ส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกัน Active Learning เน้นการร่วมมือมากกว่าการแข่งขัน
อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่เข้ากับ Active Learning คือการเรียนการสอนที่ ผู้สอนเป็นศูนย์กลาง มุ่งพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ แบบทางเดียว เพราะมันขัดกับหลักการพื้นฐานของ Active Learning ที่ต้องให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
กลยุทธ์ที่ไม่ควรเป็นของ Active Learning ก็คือ วิธีการเรียนรู้แบบรู้ จำ เข้าใจ ที่เน้นแค่การจดจำข้อมูล เพราะมันไม่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิด วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้ความรู้
การออกแบบการเรียนรู้แบบ Active Learning ต้องหลีกเลี่ยงแนวทาง การเลือกกิจกรรมการเรียนรู้ที่อยู่ภายในห้องเรียนเท่านั้น เน้นเนื้อหาให้มากที่สุด เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจของผู้เรียน เพราะ Active Learning ต้องการความยืดหยุ่น ต้องการกิจกรรมที่หลากหลาย และต้องการการเชื่อมโยงกับชีวิตจริง
แล้วกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้แบบ Active Learning มีอะไรบ้าง ตัวอย่างที่ดีคือ การเรียนรู้แบบดูวิดีโอแล้วให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นหรือสะท้อนความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ดู วิธีนี้ทำให้ผู้เรียนไม่ได้แค่รับชมอย่างเดียว แต่ต้องคิด วิเคราะห์ และแสดงออก
การดูวิดีโอที่ตามด้วยการสะท้อนความคิดนั้นมีประโยชน์หลายประการ มันช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกการคิดเชิงวิพากษ์ ได้ฝึกการสื่อสาร และได้เรียนรู้จากมุมมองของเพื่อน ๆ ด้วย มันไม่ใช่การเรียนแบบเดิมที่ดูแล้วจบ แต่เป็นการเรียนที่ต่อเนื่องและมีปฏิสัมพันธ์
เมื่อพูดถึงประโยชน์ของ Active Learning แล้ว จริง ๆ มันมีประโยชน์มากมายจนแทบจะพูดได้ว่า ถูกทุกข้อที่กล่าวมา ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้จำได้นานขึ้น การพัฒนาทักษะการคิด การสร้างความมั่นใจ การเรียนรู้การทำงานร่วมกัน หรือการเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในอนาคต
น้อง ๆ ที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คงเข้าใจแล้วใช่มั้ยว่า Active Learning ไม่ใช่แค่วิธีการเรียนอีกวิธีหนึ่ง แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้โดยสิ้นเชิง มันเป็นการเตรียมตัวสำหรับโลกอนาคตที่ต้องการคนที่คิดเป็น ทำเป็น และเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
สำคัญ! โปรดอ่านก่อนเริ่มทำแบบทดสอบ
ต้นทางส่งเกียรติบัตรออก “ทุก ๆ วันจันทร์ เวลา 18.00 น.” ผ่านทาง Email ที่ท่านลงเบียน
วันนี้ก็จบไปแล้วอีกหนึ่งบทความดี ๆ จากพี่แอดมิน โดยเว็บไซต์ของพี่แอดมินยังมีเกียรติบัตรออนไลน์ฟรี ๆ จาก มหาวิทยาลัย หรือหน่วยงานที่น่าเชื่อถืออีกมากมาย หลายวิชา เช่น ข้อสอบสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ แบบ CEFR คณิตศาสตร์ ภาษาจีน ให้ได้ทดสอบระดับความรู้ตัวเองกัน พร้อมทั้ง ข้อสอบวัดระดับความรู้ เพื่อช่วยให้น้อง ๆ ทดลองประเมินทักษะในแต่ละวิชาที่ตัวเองชอบได้ ข้อสอบมีตั้งแต่ระดับ ม.ปลาย ไปจนถึงมหาลัยเลยนะ และยังมีการอบรมออนไลน์ ผ่าน E-learning คอร์สเรียนออนไลน์ฟรี ได้ใบประกาศ ความรู้คอมพิวเตอร์ และ AI เท็มเพลตหน้าปก Portfolio สวย ๆ ไว้ให้น้อง ม.ปลายดาวน์โหลดไปใช้งานในการยื่นพอร์ตฯ TCAS การเรียนสมัครเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย และยังมีสาระน่ารู้ต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์อีกด้วยนะ สามารถเลือกดูได้ที่แถบเมนูด้านบน หรือด้านข้างซ้ายบนในโทรศัพท์มือของน้อง ๆ โดยเกียรติบัตรออนไลน์จะมีมาจากหลายหน่วยงานทั้ง กศน มหาวิทยาลัยชั้นนำ และหน่วยงานรัฐต่าง ๆ ทางพี่แอดมินจะอัพเดตเกียรติบัตรใหม่ เข้ามาในทุก ๆ วันเพื่อให้ทันเหตุการณ์ตลอดเวลา สุดท้ายพี่แอดมินขอขอบคุณน้อง ๆ ที่ให้ความสนใจในเว็บไซต์และบทความของพี่แอดมินครับ หากมีข้อแนะนำใด ๆ อย่าลังเลที่จะแจ้งพี่แอดมินนะ หากต้องการดูเกียรติบัตรใบอื่น ๆ หรือมีคำถามใด ๆ สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่: ศูนย์รวมเกียรติบัตรออนไลน์ และแบบทดสอบออนไลน์ฟรี