ทำข้อสอบวัดระดับความรู้ เรื่อง วันไหว้ครู ประจำปี 2568 เพื่อรับเกียรติบัตรออนไลน์ จาก ห้องสมุดประชาชนอำเภอกุยบุรี
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอนำกิจกรรมทำข้อสอบวัดระดับความรู้ เรื่อง วันไหว้ครู เพื่อรับเกียรติบัตรออนไลน์ โดยเมื่อท่านได้ทำแบบทดสอบผ่านเกณฑ์ที่ทางผู้จัดกิจกรรมได้กำหนดไว้ ท่านจะได้รับเกียรติบัตรเป็นไฟล์ PDF ดังภาพตัวอย่างที่ได้ทางผมได้นำมาแสดงให้ดูไว้ผ่านทาง Email ที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้ตอนทำแบบทดสอบ หรือ Platform ค้นหาเกียรติบัตร(จะมีปุ่มค้นหาอยู่ข้างๆกัน)ครับ สามารถทำแบบทดสอบได้ที่ปุ่มทำแบบทดสอบด้านล่างเลยครับ
“ไหว้ครู” ไม่ใช่แค่ประเพณี
เมื่อพูดถึงวันไหว้ครู ภาพแรกที่น้อง ๆ หลายคนอาจนึกออกก็คือการจัดพานดอกไม้ ธูปเทียน และการนั่งพับเพียบบนพื้นยกมือไหว้ครูด้วยความเคารพ แต่จริง ๆ แล้ววันไหว้ครูไม่ได้มีแค่นั้น เพราะมันเป็นการ แสดงความเคารพต่อครูบาอาจารย์ อย่างลึกซึ้ง ที่มากกว่าแค่พิธี แต่เป็นการสะท้อนว่าศิษย์ตระหนักถึงคุณค่าและพระคุณของครูจริง ๆ
ความคิดนี้เริ่มมีระบบมากขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2499 ตอนที่มีการประชุมครูทั่วประเทศ และได้รับแรงบันดาลใจจากคำปราศรัยของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่พูดถึงความสำคัญของการปลูกฝังจิตวิญญาณของความเคารพครูในระบบการศึกษาไทย
ทำไมต้อง “ครู”? ครูคือใครในชีวิตของเรา?
คำว่า “ครู” ไม่ได้แปลแค่ว่าคนที่ยืนหน้าชั้นแล้วเขียนกระดานเท่านั้นนะ เพราะในความหมายลึกซึ้ง ครูคือ ผู้ถ่ายทอดความรู้ ผู้สั่งสอน และผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา จนศิษย์สามารถเอาตัวรอดในชีวิตได้
มีคำโบราณที่พูดไว้แบบเจ็บ ๆ ว่า “ศรต้องมีพิษ ศิษย์ต้องมีครู ศิษย์มีครูเหมือนงูมีพิษ ศิษย์ไม่มีครูเหมือนงูไม่มีพิษ”
พูดง่าย ๆ คือแม้จะเก่งแค่ไหน ถ้าไม่มีคนสอนให้รู้จักควบคุมทิศทางของความรู้ มันก็ไม่ต่างจากงูไม่มีพิษ ไม่มีอำนาจอะไรเลย
ไหว้ครู เพื่ออะไร?
การไหว้ครูไม่ได้แค่เป็นพิธี แต่เป็นการ แสดงออกถึงความกตัญญูและเคารพครูบาอาจารย์ อย่างจริงใจ เพราะครูคือผู้ที่เสียสละทั้งแรงกาย แรงใจ และเวลา เพื่อให้เราได้เติบโตอย่างมีคุณภาพทั้งทางปัญญาและจิตใจ
ในบทสวดไหว้ครูที่ใช้กันทุกวันนี้ มีประโยคที่น้อง ๆ หลายคนน่าจะจำได้แม่นคือ
“ปาเจราจริยา โหนฺติ คุณุตฺตรานุสาสกา”
ซึ่งแปลว่า “ผู้รู้แจ้งแล้วซึ่งจริยธรรม เป็นผู้แนะนำสั่งสอนสิ่งที่ประเสริฐ”
และมักจะสวดปิดท้ายด้วย
“ปัญญาวุฒิ กะเร เตเต ทินโนวาเท นะมามิหัง”
เป็นเหมือนการแสดงความเคารพสูงสุดแก่ครูอาจารย์
บทสวดไหว้ครูนี้ประพันธ์ขึ้นใหม่โดย นายมนตรี ตราโมท ศิลปินแห่งชาติที่ต้องการให้เด็กไทยได้มีบทสวดไหว้ครูที่เหมาะสมและเป็นแบบแผน
แล้วพานไหว้ครูล่ะ? มีไว้แค่สวย ๆ เหรอ?
ไม่ใช่เลย พานไหว้ครูที่เราจัดกันทุกปี เขามีความหมายในแต่ละองค์ประกอบนะ เช่น…
- ดอกเข็ม แทน ความเฉลียวฉลาด
- ดอกมะเขือ สื่อถึง ความอ่อนน้อมถ่อมตน
- หญ้าแพรก แทน ความมีระเบียบวินัย เพราะมันเป็นหญ้าที่เหยียบเท่าไหร่ก็ไม่ตาย สะท้อนถึงความอดทน
- ข้าวตอก เป็นสัญลักษณ์ของ การแตกตัวของปัญญา
แต่ถ้าใส่ หญ้าคา ลงไปในพาน อันนี้ผิดนะ เพราะไม่ใช่ส่วนประกอบที่แท้จริงของพานไหว้ครู!
ไม่ใช่แค่ความรู้ แต่คือคุณธรรม
วันไหว้ครูยังเตือนใจเราให้ไม่ลืมว่า การเรียนไม่ใช่แค่สอบได้ แต่ต้องเป็นคนดีด้วย ครูจึงไม่ใช่แค่ผู้สอนในวิชา แต่เป็นคนที่อบรมจิตใจ เช่น
- อบรมคุณธรรมและจริยธรรม
- สร้างแรงบันดาลใจ
- เข้าใจอารมณ์ของนักเรียน
- ให้คำแนะนำแบบเข้าอกเข้าใจ
สิ่งพวกนี้แหละที่ AI ยังไงก็ยังแทนที่ไม่ได้ และนี่แหละคือเหตุผลว่า ทำไม แม้เราจะมีเทคโนโลยีล้ำแค่ไหน เราก็ยังต้องมีครู
คำปฏิญาณในวันไหว้ครู ไม่ใช่แค่ท่อง แต่ต้องซึมซับ
ในพิธีไหว้ครู น้อง ๆ หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับคำปฏิญาณตน เช่น
“เรานักเรียน จักต้องประพฤติตน ให้อยู่ในระเบียบวินัย ของโรงเรียน”
หรือ
“เรานักเรียน จักต้องไม่ทำตน ให้เป็นที่เดือดร้อน แก่ตนเอง และผู้อื่น”
สองบรรทัดนี้แม้จะสั้น ๆ แต่ก็มีพลังมาก เพราะมันเตือนให้นักเรียนเป็นคนที่มีวินัย และอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างสงบสุข
วันไหว้ครู = วันพฤหัสบดี
หากใครสงสัยว่าทำไมต้องจัดวันไหว้ครูวันพฤหัสบดี ไม่ใช่วันอื่น? คำตอบคือเพราะได้รับอิทธิพลมาจาก พิธีพราหมณ์ ซึ่งถือว่า วันพฤหัสบดี เป็นวันของครู มีเทพปัญญาอย่างพระพฤหัสเป็นตัวแทน
ครูในยุคดิจิทัล ยังจำเป็นอยู่มั้ย?
คำถามนี้น้อง ๆ อาจเคยได้ยินจากหลายที่ และคำตอบที่ชัดที่สุดคือ “จำเป็นมาก” เพราะแม้ข้อมูลจะหาจาก Google หรือ AI ได้ แต่ครูคือคนที่
- ช่วยแนะนำว่าสิ่งไหนดีไม่ดี
- พาเราไปให้พ้นจากความเครียด
- เป็นเพื่อนคู่คิดเวลาที่เราสับสน
- เป็นคนที่พาเราเติบโตอย่างมีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่ได้คะแนนดี
เทคโนโลยีช่วยให้เรียนรู้เร็วขึ้น แต่ครูคือคนที่สอนให้รู้จักใช้ความรู้ให้ถูกทาง
สุดท้าย วันไหว้ครูไม่ใช่แค่พิธีที่ทำให้ผ่าน ๆ ไป แต่คือวันที่เราควร ระลึกถึงความเสียสละ ความอดทน และความเมตตาของครู เพราะพวกเขาคือคนที่เชื่อว่าเด็กทุกคนสามารถเติบโตเป็นคนที่ดีได้ ไม่ใช่แค่เก่งในห้องเรียน แต่ต้องเก่งในชีวิตจริงด้วย
สำคัญ! โปรดอ่านก่อนเริ่มทำแบบทดสอบ
วันนี้ก็จบไปแล้วอีกหนึ่งบทความดี ๆ จากพี่แอดมิน โดยเว็บไซต์ของพี่แอดมินยังมีเกียรติบัตรออนไลน์ฟรี ๆ จาก มหาวิทยาลัย หรือหน่วยงานที่น่าเชื่อถืออีกมากมาย หลายวิชา เช่น ข้อสอบสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ แบบ CEFR คณิตศาสตร์ ภาษาจีน ให้ได้ทดสอบระดับความรู้ตัวเองกัน พร้อมทั้ง ข้อสอบวัดระดับความรู้ เพื่อช่วยให้น้อง ๆ ทดลองประเมินทักษะในแต่ละวิชาที่ตัวเองชอบได้ ข้อสอบมีตั้งแต่ระดับ ม.ปลาย ไปจนถึงมหาลัยเลยนะ และยังมีการอบรมออนไลน์ ผ่าน E-learning คอร์สเรียนออนไลน์ฟรี ได้ใบประกาศ ความรู้คอมพิวเตอร์ และ AI เท็มเพลตหน้าปก Portfolio สวย ๆ ไว้ให้น้อง ม.ปลายดาวน์โหลดไปใช้งานในการยื่นพอร์ตฯ TCAS การเรียนสมัครเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย และยังมีสาระน่ารู้ต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์อีกด้วยนะ สามารถเลือกดูได้ที่แถบเมนูด้านบน หรือด้านข้างซ้ายบนในโทรศัพท์มือของน้อง ๆ โดยเกียรติบัตรออนไลน์จะมีมาจากหลายหน่วยงานทั้ง กศน มหาวิทยาลัยชั้นนำ และหน่วยงานรัฐต่าง ๆ ทางพี่แอดมินจะอัพเดตเกียรติบัตรใหม่ เข้ามาในทุก ๆ วันเพื่อให้ทันเหตุการณ์ตลอดเวลา สุดท้ายพี่แอดมินขอขอบคุณน้อง ๆ ที่ให้ความสนใจในเว็บไซต์และบทความของพี่แอดมินครับ หากมีข้อแนะนำใด ๆ อย่าลังเลที่จะแจ้งพี่แอดมินนะ หากต้องการดูเกียรติบัตรใบอื่น ๆ หรือมีคำถามใด ๆ สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่: ศูนย์รวมเกียรติบัตรออนไลน์ และแบบทดสอบออนไลน์ฟรี