ทำข้อสอบวัดระดับความรู้ ภาษาอังกฤษ Verb to have เพื่อรับเกียรติบัตรออนไลน์ ผ่าน Google Form
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอนำกิจกรรมการทำข้อสอบวัดระดับความรู้ ภาษาอังกฤษ Verb to have เพื่อรับเกียรติบัตรออนไลน์ ผ่าน Google Form โดยเมื่อท่านได้ทำแบบทดสอบผ่านเกณฑ์ที่ทางผู้จัดกิจกรรมได้กำหนดไว้ ท่านจะได้รับเกียรติบัตรเป็นไฟล์ PDF ดังภาพตัวอย่างที่ได้ทางผมได้นำมาแสดงให้ดูไว้ผ่านทาง Email ที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้ตอนทำแบบทดสอบครับ สามารถทำแบบทดสอบได้ที่ปุ่มทำแบบทดสอบด้านล่างเลยครับ

สรุปความรู้เพื่อใช้ในการทำข้อสอบวัดระดับความรู้ ภาษาอังกฤษ Verb to have โดยพี่แอดมิน
เรื่องของ Have กับ Has นี่แหละ เป็นหัวข้อที่หลายคนมักจะสับสนกัน แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ยากอย่างที่คิดเลย วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจให้ชัดเจนกัน ผ่านตัวอย่างที่น้อง ๆ เจอบ่อย ๆ ในชีวิตประจำวัน
เริ่มต้นจากพื้นฐานที่ต้องรู้
ก่อนอื่นเลย เราต้องเข้าใจว่า “have” และ “has” เป็นคำกริยาที่ใช้บอกการมีหรือการครอบครอง ในภาษาอังกฤษ คำเหล่านี้มีบทบาทสำคัญมาก เพราะเราใช้มันในการสื่อสารเกือบทุกวัน
ลองดูตัวอย่างง่าย ๆ กันก่อน เวลาเราพูดว่า “The dog has four legs” นั่นหมายความว่าสุนัขมีขาสี่ข้าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่เรารู้กัน หรือเวลาเราพูดเกี่ยวกับคนอย่าง “Barbara has long hair” ก็คือ บาร์บาร่ามีผมยาวนั่นเอง
กฎทองที่ต้องจำให้ขึ้นใจ
สิ่งที่น้อง ๆ ต้องจำให้แม่นที่สุดคือ เมื่อไหร่ใช้ “has” และเมื่อไหร่ใช้ “have” กฎง่าย ๆ ที่ไม่ซับซ้อนเลยคือ:
ใช้ “has” กับ He, She, It และคำนามเอกพจน์ทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของ ยกตัวอย่างเช่น เวลาเราพูดถึงเด็ก ๆ ว่า “Children have an examination today” เพราะ children เป็นพหูพจน์ แต่ถ้าเป็น “Andy has a dictionary” เพราะ Andy เป็นคนเดียว
ส่วน “have” จะใช้กับ I, You, We, They และคำนามพหูพจน์ทั้งหมด เช่น “I have lunch” หรือ “They have pillows on the bed” ซึ่งเป็นเรื่องที่เราพูดกันทุกวัน
ตัวอย่างจริงที่เจอในแต่ละวัน
มาดูตัวอย่างที่ใกล้ตัวกันเลย เวลาเราพูดเกี่ยวกับตัวเองว่า “I have lunch” หรือถามเพื่อนว่า “Do you have brothers?” แล้วตอบว่า “Yes, I have three brothers” นี่คือการใช้งานจริงที่เราทำกันเป็นประจำ
แต่ถ้าเราพูดถึงคนอื่นที่เป็นเอกพจน์ เช่น “He has a wife” หรือ “He has two guns” ก็ต้องใช้ “has” แทน เหตุผลก็เพราะ “he” เป็นสรรพนามบุรุษที่สามเอกพจน์นั่นเอง
การใช้ในรูปคำถาม
เรื่องของการทำคำถามนี่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เวลาเราอยากถามว่า “Has Kevin a red toothbrush?” หรือ “Does Mark have a good time?” เราต้องใช้ “Has” สำหรับประธานเอกพจน์ และ “Do/Does” สำหรับการถามในรูปแบบปกติ
การถามแบบ “Do you have brothers?” นี่เป็นรูปแบบที่เราใช้กันมากในชีวิตประจำวัน เพราะฟังดูเป็นธรรมชาติกว่า และเป็นที่นิยมใช้กันในหลายประเทศ
การใช้ในรูปปฏิเสธ
เรื่องของการปฏิเสธก็ไม่ซับซ้อนเช่นกัน ถ้าเราอยากจะบอกว่าไม่มีอะไรบางอย่าง เราก็ใช้ “don’t have” สำหรับ I, You, We, They และ “doesn’t have” สำหรับ He, She, It
ยกตัวอย่าง เวลาพูดว่า “Children don’t have an examination today” หรือถ้าเป็นเรื่องของผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่ “Those women have fun at the party” ซึ่งเป็นการใช้ในรูปบวก
ความผิดพลาดที่พบบ่อย
หลายคนมักจะสับสนระหว่าง “have/has” กับ “is/are” เช่น เวลาพูดว่า “My cat has three kittens” ไม่ใช่ “My cat is three kittens” เพราะเรากำลังพูดถึงการมี ไม่ใช่การเป็น
อีกตัวอย่างหนึ่งคือ “Somjai has a new sweater” ไม่ใช่ “Somjai is a new sweater” เพราะเราบอกว่าสมจายมีเสื้อสเวตเตอร์ตัวใหม่ ไม่ใช่สมจายเป็นเสื้อสเวตเตอร์
เทคนิคการจำที่ใช้ได้จริง
วิธีง่าย ๆ ที่น้อง ๆ จะจำได้คือ ให้นึกถึง “He, She, It + has” เป็นชุด ส่วนที่เหลือทั้งหมดใช้ “have” ถ้าจำแค่นี้ได้ ก็ผ่านแล้ว
อีกวิธีหนึ่งคือ ให้ลองอ่านออกเสียงดู ถ้าฟังแล้วผิดหู แสดงว่าเราเลือกผิดคำแล้ว เช่น “He have” ฟังแล้วจะรู้เลยว่าผิด ต้องเป็น “He has” ถึงจะถูก
การประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
เรื่องของ have/has นี่ไม่ได้มีแค่ในหนังสือเรียนหรือข้อสอบ แต่เราใช้กันทุกวันจริง ๆ เวลาเราพูดเกี่ยวกับสิ่งของที่เรามี อาหารที่เรากิน หรือแม้แต่ความรู้สึกที่เรามี
ตัวอย่างเช่น “Andy has a dictionary. It is blue book” หรือ “He has a red pen” เหล่านี้เป็นประโยคที่เราอาจจะพูดกันเวลาอธิบายของที่เพื่อนมี
ที่สำคัญคือ เราต้องฝึกให้เป็นนิสัย เพราะยิ่งใช้บ่อย ๆ เราก็ยิ่งจำได้ดี และไม่ต้องมานั่งคิดทุกครั้งที่จะพูดหรือเขียน
สรุปที่น้อง ๆ ต้องจำ
เรื่องของ Have และ Has ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าเราเข้าใจกฎพื้นฐานแล้ว ก็แค่ฝึกใช้ให้เป็นนิสัย กฎหลักคือ Has ใช้กับ He, She, It และคำนามเอกพจน์ ส่วน Have ใช้กับ I, You, We, They และคำนามพหูพจน์
การฝึกฝนจากตัวอย่างจริง ๆ เหล่านี้จะช่วยให้น้อง ๆ เข้าใจและจำได้ดีกว่าการท่องกฎแห้ง ๆ เพราะเราจะได้เห็นการใช้งานจริงและเข้าใจบริบทได้ชัดเจนกว่า
สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่ากลัวที่จะผิด เพราะการผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ ยิ่งเราฝึกมาก ๆ เราก็ยิ่งชำนาญมากขึ้น จนในที่สุดเราจะใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องคิดมาก
สำคัญ! โปรดอ่านก่อนเริ่มทำแบบทดสอบ
วันนี้ก็จบไปแล้วอีกหนึ่งบทความดี ๆ จากพี่แอดมิน โดยเว็บไซต์ของพี่แอดมินยังมีเกียรติบัตรออนไลน์ฟรี ๆ จาก มหาวิทยาลัย หรือหน่วยงานที่น่าเชื่อถืออีกมากมาย หลายวิชา เช่น ข้อสอบสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ แบบ CEFR คณิตศาสตร์ ภาษาจีน ให้ได้ทดสอบระดับความรู้ตัวเองกัน พร้อมทั้ง ข้อสอบวัดระดับความรู้ เพื่อช่วยให้น้อง ๆ ทดลองประเมินทักษะในแต่ละวิชาที่ตัวเองชอบได้ ข้อสอบมีตั้งแต่ระดับ ม.ปลาย ไปจนถึงมหาลัยเลยนะ และยังมีการอบรมออนไลน์ ผ่าน E-learning คอร์สเรียนออนไลน์ฟรี ได้ใบประกาศ ความรู้คอมพิวเตอร์ และ AI เท็มเพลตหน้าปก Portfolio สวย ๆ ไว้ให้น้อง ม.ปลายดาวน์โหลดไปใช้งานในการยื่นพอร์ตฯ TCAS การเรียนสมัครเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย และยังมีสาระน่ารู้ต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์อีกด้วยนะ สามารถเลือกดูได้ที่แถบเมนูด้านบน หรือด้านข้างซ้ายบนในโทรศัพท์มือของน้อง ๆ โดยเกียรติบัตรออนไลน์จะมีมาจากหลายหน่วยงานทั้ง กศน มหาวิทยาลัยชั้นนำ และหน่วยงานรัฐต่าง ๆ ทางพี่แอดมินจะอัพเดตเกียรติบัตรใหม่ เข้ามาในทุก ๆ วันเพื่อให้ทันเหตุการณ์ตลอดเวลา สุดท้ายพี่แอดมินขอขอบคุณน้อง ๆ ที่ให้ความสนใจในเว็บไซต์และบทความของพี่แอดมินครับ หากมีข้อแนะนำใด ๆ อย่าลังเลที่จะแจ้งพี่แอดมินนะ หากต้องการดูเกียรติบัตรใบอื่น ๆ หรือมีคำถามใด ๆ สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่: ศูนย์รวมเกียรติบัตรออนไลน์ และแบบทดสอบออนไลน์ฟรี